Stephen Curry

Stephen Curry
Stephen Curry

Stephen Curry (สตีเฟ่น เคอร์รี่) สุดยอดผู้เล่นในปัจจุบัน

ในอดีตมีผู้เล่นมากมายที่ได้สร้างผลงานเอาไว้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง N B A ต่อมาในปัจจุบันมีนักบาสเกตบอลเก่ง ๆ เกิดขึ้นมาใหม่ที่มากหน้าหลายตา รวมถึงคนนี้ชายนักบาสในปัจจุบัน คือ สตีเฟ่น เคอร์รี่ ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยท่าทางและความสามารถและการชูทที่แม่นยำของเขา

ในการแข่งขันเขาสามารถชูทบาสได้ทุกมุมสนาม เป็นคนที่สร้างผลงานไว้มากมายและสร้างความตื่นเต้นตลอดเวลาขณะที่เขาได้เล่นอยู่ในเกมการแข่งขัน ซึ่งในอนาคตหลังจากที่เขาได้เลิกเล่นจึงเชื่อได้ว่า ชื่อของเขา สตีเฟ่น เคอร์รี่ จะต้องถูกบันทึกเป็นนักบาสที่เก่งในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน

ประวัติและผลงานของ Stephen Curry

สตีเฟ่น เคอร์รี่ เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1988 เกิดในเมือง O h i o เขาเป็นลูกชายของ Sonya Curry (แม่ของเขา) และสุดยอดนักบาสสามแต้มคนหนึ่งในวงการบาส ก็คือ Dell Curry (พ่อของเขา) สตีเฟ่น เคอร์รี่ ได้ติดตามและดูการแข่งขันของพ่อมาตลอดตั้งแต่เขายังเด็ก และแน่นอนว่า สตีเฟ่นได้ซึมซับบาสเกตบอลมาตั้งแต่เด็กอีกด้วย จึงทำให้เขามีความชื่นชอบในการเล่นบาสเกตบอลเป็นอย่างมาก

ผู้คนได้เห็นเขาในวัยเด็ก ที่อยู่เคียงข้างพ่อมาตลอด เขารักการเล่นบาสเก็ตบอลตั้งแต่เด็ก และได้รับการส่งเสริมจากครอบครัว แต่มีอุปสรรคเพราะเขามีรูปร่างที่บอบบางและส่วนสูงที่ไม่มากพอในมาตรฐานนักบาส ทำให้เมื่อเขาได้จบใน h i g h s c h o o l ไม่มี C o l l e g e ที่โด่งดังเรื่องบาสที่เสนอสนใจรับเขาเข้าทุนการศึกษา จนในที่สุดเขาจึงต้องเลือก Davidson ที่ยื่นข้อเสนอมาให้ ถึงแม้จะไม่เคยได้แชมป์บาสระดับมหาลัยเลย จากที่เคยได้แชมป์บาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยตั้งแต่ปี 1969 และก็ไม่เคยได้อีกเลย แต่ด้วยความมุ่งมั่นของเขา ตลอดเวลาที่เคอร์รี่ได้อยู่กับมหาวิทยาลัยเดวินสัน เขาใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เชื่อฟังโค้ช และขยันซ้อมจึงทำให้ฝีมือของเคอร์รี่พัฒนาอย่างมาก และโชว์ผลงานที่ดีออกมาเรื่อย ๆ

ปรากฏว่าเขาได้พัฒนาและพิสูจน์ให้หลาย ๆ คนได้เห็นความสามารถ D a v i d s o n เพราะเขาได้พาทั้งทีมเข้า N C A A t o u r n a m e n t ที่ได้สร้างสถิติในการทำแต้ม และชู้ต 3 pts มากที่สุดใน N C A A ซึ่งเคอรี่ได้ใช้เวลานาน 3 ปีในมหาลัย เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองเป็น Point Guard เป็นตำแหน่งที่เหมาะกับรูปร่างและความสามารถของเขาโดยเขาเลือกที่จะดรอปการเรียนในปี 4 และออกจากมหาลัย เพื่อการก้าวสู่การเป็นผู้เล่นในลีก N B A ตามรอยพ่อของเขา

ในปีค.ศ. 2006 – 2009 เคอร์รี่ได้ทำคะแนนสูงสุดของมหาวิทยาลัยเดวินสันถึง 2,635 คะแนน เป็นการทำแต้มในระยะสามแต้ม เขาทำได้ 414 คะแนน และยังทำแต้มเกินอีกมากมาย เป็นสถิติที่ไม่มีใครเคยทำได้มาก่อน ตั้งแต่ก่อตั้งชมรมบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยเดวินสัน

ในปีค.ศ. 2009 เขาได้ถูกดราฟท์เข้าทีม Golden State Warriors ค่าตัวของเขารวม 4 ปีได้ 12.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการเล่นปีแรกใน N B A ของเคอร์รี่นั้น เขาได้โชว์ฟอร์มอย่างยอดเยี่ยมทั้งการยิงแต้มเองหรือส่งลูกให้กับเพื่อนร่วมทีมก็ตาม เขาได้ทำผลงานในปีแรกได้อย่างยอดเยี่ยม เฉลี่ยคะแนนอยู่ที่ 17.5 คะแนน แอสซิสต์ 5.9 ต่อเกม และยังได้อันดับที่ 2 ของดาวรุ่งยอดเยี่ยมอีกหนึ่งรางวัล

ต่อมาในปีค.ศ. 2011 เคอร์รี่ได้ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า เขาจึงต้องรับการผ่าตัดอยู่บ่อยครั้งจึงเป็นปัญหากับเขามากด้วยค่าเฉลี่ยคะแนนที่ลดลง เหลือเพียงแค่ 14.7 คะแนน และเคอร์รี่ได้ลงเล่นเพียงแค่ 26 เกมเท่านั้น แต่ในฤดูกาลใหม่ปี 2012 เคอร์รี่ได้รับสัญญาใหม่ที่มีมูลค่ากว่า 44 ล้านเหรียญ

ซึ่งต่อจากนั้น G o l d e n S t a t e W a r r i o r s ได้มีการปรับแก้ไขทีมใหม่และได้ผู้เล่นมาร่วมทีมคือ K l a y T h o m p s o n เขาเล่นเข้ากันได้ดีกับ เคอร์รี่ แต่ก็ยากที่จะได้เป็นแชมป์ ถึงเคอร์รี่จะได้สร้างผลงานเอาไว้มากพอสมควร ด้วยการทำคะแนน 54 แต้มในเกมเดียว และทำสามแต้มได้มากที่สุดในซีซั่นนั้น ๆ ถึง 272 ครั้ง

จนมาถึงปีค.ศ. 2014 เขาสร้างผลงานที่สุดยอดด้วยการทำคะแนนถึง 1000 คะแนน คนแรกในศึก N B A ในการแข่ง 369 เกม และพา Golden ชนะมากที่สุดใน N B A รวม 67 เกม และยังพาทีมได้แชมป์ในฤดูกาลปีค.ศ. 2014-2015 มีคะแนนเฉลี่ย 23.8 คะแนน แอสซิสต์ 7.7 ต่อเกม และยังได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมหรือ M V P ประจำฤดูกาลอีกด้วย

ดังนั้น สตีเฟ่น เคอร์รี่ มีวันนี้ได้เขาต้องผ่านอะไรมามากพอสมควร ตั้งแต่ได้เริ่มเล่นบาสเกตบอล เคอร์รี่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนักหน่วงและการค่อย ๆ ปีนป่ายไปเรื่อย ๆ เนื่องจากเริ่มต้นที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ด้วยความอดทนและขยันของเขาได้ทำให้เคอร์รี่ประสบความสำเร็จและคงจะสร้างผลงานใหม่ ๆ อีกมาก

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก u f a 8 7 7