เควิน การ์เน็ต

เควิน การ์เน็ต
เควิน การ์เน็ต

เควิน การ์เน็ต เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2519 เมืองมอลดิน รัฐเซาท์แคโรไลนา เป็นนักบาสเกตบอลNBA ทีมบอสตัน เซลติกส์ ชื่อย่อคือ เคจี และมีฉายาอื่นคือ The Big Ticket และ The Kid เขามีความสามารถที่หลายหลาย สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง แต่เพาเวอร์ฟอร์เวิร์ดเป็นตำแหน่งที่สร้างชื่อเสียงให้เขา และได้รับเลือกให้เล่นในเกมออลสตาร์10ครั้ง จึงได้รับให้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่าในฤดูกาลปี 2003-2004 ของ NBA อีกด้วย หลังจากที่เขาจบจากไฮสกูล Farragut Career Academy ในชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เขาได้ถูกดราฟเข้าNBAทีมมินเนโซตา ทิมเบอร์วูฟส์เมื่อปี พ.ศ. 2538 จึงเล่นให้ทีมถึง 12 ปี ก่อนที่จะย้ายไปทีม เซลติกส์ เขาถือเป็นนักกีฬาNBA ที่ถูกเลือกจากระดับไฮสกูลคนแรกในรอบ 20 ปี

เควิน การ์เน็ต ในวัยเด็ก

เขาเกิดที่เมืองมอลดิน รัฐเซาท์แคโรไลนา บุตรของ เชอร์ลี การ์เน็ต และโอลิวอิส แม็คคัลลา ในไฮสคูล3ปีแรก เขาเรียนและเล่นบาสเกตบอลให้กับโรงเรียนไฮสคูลมอลดิน ไฮสคูลปีสุดท้ายเขาได้ย้ายไปเรียนที่ Farragut Career Academy ในชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เขาได้พาทีมชนะ 28 แพ้ 2 จนได้ถูกเลือกเป็นผู้เล่นแห่งปีระดับประเทศ และยังได้รับเลือกเป็น Mr. Basketball ของรัฐอิลลินอยส์ ที่เล่นได้เฉลี่ยตลอดปี 25.2 คะแนน 17.9 รีบาวด์ 6.7 แอสซิสต์ และ 6.5 บล็อก และเปอร์เซ็นต์การชู้ตลูกถึง 66.7% ในเกม McDonald’s All-American Game ซึ่งเป็นเกมรวบดารานักบาสเกตบอลระดับไฮสคูล เขาได้รางวัล Most Outstanding Player หลังทำได้ 18 คะแนน 11 รีบาวด์ 4 แอสซิสต์และ 3 บล็อก หลังจากนั้นเขาได้เสนอชื่อตัวเองในการดราฟผู้เล่นNBA ปี พ.ศ. 2538

อาชีพการเล่นในเอ็นบีเอ

ปี 2538-2540

เขาถูกดราฟในอันดับที่ 5 ในการดราฟNBA โดยทีมมินนิโซตา ทิมเบอร์วูฟส์ ที่เป็นทีมใหม่ที่เข้าร่วมในNBAเมื่อฤดูกาล 1989-1990 ที่ยังไม่เคยชนะเกิน 29 เกมในหนึ่งฤดูกาลอีกทั้งมีการเปลี่ยนโค้ชใหม่ คือ ฟลิป ซอนเดอร์ส และแทน บิล แบลร์ และมีการเทรดผู้เล่นหลายครั้งเพื่อปรับโครงสร้างทีม ในปีแรกเขาเข้ามาเล่น เริ่มต้นด้วยการเป็นตัวสำรองเมื่อเริ่มฤดูกาล และขึ้นเป็นตัวจริงกลางฤดูกาล เขาและทอม กูกลิโอตา ได้รับหน้าที่ทำคะแนนให้ทีม เขาไม่ได้ก้าวกระโดดไประดับซูเปอร์สตาร์ในทันทีแต่ก็มีผลงานที่ใช้ได้ในปีแรก โดยเฉลี่ยตลอดฤดูกาล 10.4 แต้ม 6.3 รีบาวด์ 1.8 แอสซิสต์ อีกทั้งทำสถิติบล็อกสูงสุดในทีม ในขณะนั้นเขาเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์NBA คืออยู่ที่ อายุ 19 ปี

ผู้เล่นแฟรนไชส์ปี 2540-2544

ระหว่างฤดูกาลปี 1997-1998 วูฟส์และ Kevin Garnett ได้ตกลงต่อสัญญา 6 ปี มูลค่าสูงถึง 126 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ไม่เคยมีมาก่อนตอนนั้น สร้างความตกตะลึงในลีกNBA และเป็นเหตุผลหนึ่งในการประท้วงหยุดเล่นในฤดูกาลต่อมา สัญญามีความเสี่ยงสูง และยังทำให้วูฟส์ลำบากใจในการเซ็นสัญญาผู้เล่นใหม่หรือต่อสัญญาผู้เล่นเก่า แม้ว่าจะมีคำวิพากษ์วิจารณ์ Kevin Garnett คงพัฒนาการเล่น เล่นได้เฉลี่ย 18.5 คะแนน 9.6 รีบาวด์ 4.2 แอสซิสต์ 1.8 บล็อก และ 1.7 สตีล ต่อเกม เขาได้รับเลือกเล่นเกมออลสตาร์อีกครั้ง และวูฟส์มีสถิติชนะมากกว่าแพ้เป็นครั้งแรก แต่ดันตกรอบแรกในเพลย์ออฟโดยพ่ายให้กับซีแอตเติล ซุปเปอร์โซนิค 2 ต่อ 3 เกม เมื่อหมดฤดูกาล ทอม กูกลิโอตา ตัวแต้มให้ทีม ได้ออกไปเซ็นสัญญากับฟีนิกส์ ซันส์

ฤดูกาล 1999-2000 Kevin Garnett ยังเล่นได้ดี และจากการช่วยเหลือของนักชู้ตหน้าใหม่ วอลลี เซอร์เบียกและ แบรนดอน วูฟส์จบฤดูกาลด้วยสถิติดีที่สุด ชนะ 50 แพ้ 32 แต่แพ้รอบแรก 3 ต่อ 1 ให้กับ พอร์ตแลนด์ เทรลเบลเซอรส์

ฤดูกาล 2000-2001 วูฟส์กลับมาประสบปัญหาอีกครั้ง การ์ด มาลิก ซีลี ถูกฆ่าตายโดยคนเมาแล้วขับ และNBA ตัดสินว่าวูฟส์ทำผิดกฎเมื่อเซ็นสัญญาผู้เล่น โจ สมิท NBAลงโทษวูฟส์โดยถอดสิทธิ์การดราฟรอบแรกสามครั้ง ปรับเจ้าของทีม 3.5 ล้านดอลลาร์ และแบนผู้จัดการทีมหนึ่งปี ฤดูกาลนี้ Kevin Garnett พาทีมชนะ 47 แพ้ 35 แต่ก็ยังไม่ผ่านเพลย์ออฟรอบแรก แพ้ให้ สเปอรส์ 1 ต่อ 3

ซูปเปอร์สตาร์ 2544-2547

Kevin Garnett ยังคงเล่นได้ดี เขายังเป็นหนึ่งในผู้ที่รับการคัดเลือกเป็น MVP เมื่อปีพ.ศ. 2545 – 2546 และได้รับการโหวตเป็นอันดับสองรองจากทิม ดังแคน ปี 2546 แต่ทิมเบอร์วูฟส์ยังคงประสบปัญหาในการเล่นเพลย์ออฟ ตกรอบแรกทั้งสองฤดูกาล หรือ ตกรอบแรก 7 ปีติดต่อกัน การแพ้ติดต่อกันนี้สิ้นสุดเมื่อปี 2547 เมื่อทิมเบอร์วูฟส์ได้ แซม คาสเซลล์ และลาเทรล สปรีเวลล์ มาเสริมทีม ปีนี้ Kevin Garnettได้เป็นMVPหลังจากทำคะแนนเฉลี่ย 24.3 แต้มต่อเกมและทำรีบาวด์เฉลี่ย 13.9 ต่อเกมสูงที่สุดNBA ส่วนวูฟส์ก็ได้สถิติดีที่สุดในสายตะวันตก และเอาชนะทีมเดนเวอร์ Kevin Garnett และซาคราเมนโต คิงส์ในเพลย์ออฟ ก่อนที่จะแพ้ให้กับลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ในรอบไฟนอลของสายตะวันตก ในระหว่างนี้ Kevin Garnettได้เป็นผู้เล่นคนที่ 5 ที่สามารถทำ 30 แต้ม 20 รีบาวด์ในเกมที่7ของเพลยออฟ โดยทำได้ 32 แต้มและ 21 รีบาวด์ในเกมที่เอาชนะซาคราเมนโต

ปีที่ตกต่ำ 2547-2550

คาสเซลล์ และ สปรีเวลล์ มีส่วนสำคัญของความสำเร็จในทิมเบอร์วูฟส์ในปี 2547 สร้างผลงานที่ไม่ดีเท่านี้ในฤดูกาล 2004-2005 เป็นผลให้ไม่ได้เข้าในรอบเพลย์ออฟในปีนั้น และในฤดูกาลต่อมาวูฟส์ ซึ่งได้ชู้ตติ้งการ์ดและสมอลฟอร์เวิร์ด ริกกี เดวิส มาช่วยทีม จึงมีสถิติถดถอย เหลือชนะเพียง 33 เกมจาก 82 เกม พลาดเข้ารอบเพลย์ออฟ

2550-ปัจจุบัน

ในฤดูกาล 2549-2550 วูฟส์ได้ชนะด้วยคะแนน 32 จาก 82 เกม จึงไม่ได้เล่นเพลย์ออฟเป็นปีที่3 ติดต่อกัน ในวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 Kevin Garnett ถูกเทรดไปยังทีม บอสตัน เซลติกส์ เมื่อปี 2006 เป็นการเทรดผู้เล่นที่มากที่สุดเพื่อแลกกับผู้เล่นคนเดียวตอนที่เทรด เขาเป็นผู้เล่นที่สังกัดทีมในNBA นานที่สุดในขณะนั้น และเล่นให้กับ ทิมเบอร์วูฟส์ ติดต่อกัน 12 ปี เขากล่าวว่าเขาภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเซลติกส์ และหวังว่าจะได้สานต่อความสำเร็จทางบาสเกตบอลและในวันนั้นการเทรดถูกประกาศ เขาก็ได้เซ็นต่ออายุสัญญาเพิ่มอีก 3 ปี มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อจากสัญญาปัจจุบัน

Kevin Garnett ได้รับการโหวดด้วยคะแนนสูงที่สุดเกมรวมดาราNBA ในปี 2008 โดยได้ 2,399,148 คะแนน เป็นคะแนนสูงสุดอันดับที่6ในประวัติศาสตร์การโหวตNBA  เขาปรากฏตัวเป็นครั้งที่ 11 รองจากเซ็นเตอร์ ในวันที่ 8 มีนาคม เขาทำสถิติได้ 20,000 คะแนนตลอดการเล่นอาชีพ ถือเป็นผู้เล่นNBA คนที่ 32 ที่ทำคะแนนได้ระดับนี้โดยการเลย์อับ ในควาร์เตอร์ที่ 2 เมื่อเจอกับทีมเมมฟิส กริซลีส์ผู้เล่นอื่นในปัจจุบันที่ทำได้ระดับนี้มีเพียง แชคิล โอนีล, อัลเลน ไอเวอร์สัน และ โคบี ไบรอันต์

ในวันที่ 22 เมษายน เขาได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นทีมรับยอดเยี่ยมNBA ในฤดูกาล 2007-2008 รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลใหญ่รางวัลเดียวที่ผู้เล่นจากบอสตัน เซลติกส์ไม่เคยได้รับตั้งแต่ก่อตั้งทีมมขึ้นมาแต่ Kevin Garnettกล่าวว่าเป็นผลงานร่วมกันของทีมที่ได้รับรางวัลนี้ วันที่ 17 มิถุนายน เขาช่วยให้ทีมเซลติกส์คว้าแชมป์NBAสมัยที่ 17 ผลงาน 26 คะแนน 14 รีบาวด์ในการแข่งเกม 6 ของรอบไฟนอลปี 2008 วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2551 g-kpy’ได้เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์NBAที่เล่นอาชีพครบ 1,000 เกมที่อายุ 32 ปี

ข้อมูลผู้เล่น

Kevin Garnett เป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่มีมาตำแหน่งเพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด ที่จะสูงถึง 7 ฟุต เขาก็มีความคล่องแคล่ว มีทักษะและมีสายตาที่ดี สามารถเล่นทุกตำแหน่งและช่วยทีมทั้งเกมลุกและเกมรับ ทำคะแนนได้ 20 คะแนน 10 รีบาวด์ในเกมตลอด ยังเป็นเจ้าของสถิติจำนวนฤดูกาลเฉลี่ย 20 แต้ม 10 รีบาวด์ 5 แอสซิสต์ติดต่อกันสูงสุดคือ 6 ฤดูกาล และเขายังทำคะแนนอย่างน้อย 10 แต้ม ติดต่อกัน 392 เกม เล่นเป็นตัวจริงติดต่อกัน 331 เกม ด้านเกมรับเขาเป็นคนบล็อกลูกได้ดีและมีชื่อเสียงการตั้งรับ สามารถประกบกับพอยท์การ์ดและเซ็นเตอร์ได้ ในการบุกทำคะแนนสามารถทำคะแนนได้ทั้งบริเวณใต้แป้นและการชู้ตจากวงนอก ถือว่าเขาเป็นผู้นำทีมและซึ่งน้อยคนนักจะสามารถนำพาทีมได้ด้วยคนเพียงคนเดียว

ผลงาน

  • แชมป์NBA ปี 2551
  • ผู้เล่นทรงคุณค่าในNBA ปี 2547
  • ผู้เล่นทีมรับแห่งปี 2551
  • เหรียญทองโอลิมปิกปี 2543
  • เล่นในเกมออลสตาร์ ปี 2540, 2541, 2543, 2544, 2545, 2546, 2547, 2548, 2549, 2550, 2551
  • ผู้เล่นทรงคุณค่าในเกมออลสตาร์ ปี 2546
  • ได้รับเลือกเป็น All-NBA
    • ทีมแรก 2543, 2546, 2547, 2551
    • ทีมที่สอง 2544, 2545, 2548
    • ทีมที่สาม 2542, 2550
  • ได้รับเลือกเป็น All-Defensive
    • ทีมแรก 2543, 2544, 2545, 2546, 2547, 2548, 2551
    • ทีมที่สอง 2549, 2550
  • ได้รับเลือกเป็น All-Rookie ทีมที่สอง 2539
  • ทำรีบาวด์เฉลี่ยต่อเกมสูงสุดในNBA ฤดูกาลปกติ 2547, 2548, 2549, 2550
  • ทำรีบาวด์รวมสูงสุดในNBA ปี 2547, 2548
  • ทำคะแนนรวมสูงสุดในNBA 2547 ด้วย 1987 คะแนน
  • ผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์NBAที่
    • เฉลี่ยอย่างน้อย 20 คะแนน 10 รีบาวด์ 5 แอสซิสต์ ต่อเกม ติดต่อกัน 6 ฤดูกาล
    • เฉลี่ยอย่างน้อย 20 คะแนน 10 รีบาวด์ 4 แอสซิสต์ ต่อเกม ติดต่อกัน 9 ฤดูกาล
    • ได้อย่างน้อย 20,000 คะแนน 11,000 รีบาวด์ 4,000 แอสซิสต์ 1,200 สตีล 1,500 บล็อกตลอดการเล่นอาชีพ

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมดูได้ที่ holifestivaljapan