ทิม ดังแคน

ทิม ดังแคน
ทิม ดังแคน

ทิม ดันแคน (Tim Duncan) หรือ ทิโมธี่ ธีโอดอร์ ดันแคน (Timothy Theodore Duncan) เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2519 ในเมืองคริสเตียนสเต็ด ในเกาะเซนต์ครอย หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา เขาเป็นนักกีฬา UFABET บาสเกตบอลNBAของทีม ซาน แอนโทนิโอ สเปอรส์ เล่นในตำแหน่งเพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด เขามีชื่อเรื่องความมั่นใจ ในการทำคะแนน และสามาถวางตำแหน่งในการบุกใต้แป้น และการใช้ท่าเคลื่อนไหวพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ เขายังได้แชมป์NBA 4 สมัย รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าในรอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้ง และได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าในฤดูการปกติอีก 2 ครั้งอีกเช่นกัน

ทิม ดังแคน ในช่วงชีวิตใวัยเด็ก

ทิมเป็นลูกชายของวิลเลียม และ ไอโอนี ดังแคน และเป็นนักว่ายน้ำที่เก่งในระดับประเทศจากโรงเรียน St. Dunstan’s Episcopal High School หมู่เกาะเวอร์จิน ขณะที่สระว่ายน้ำขนาดโอลิมปิกแห่งเดียวของเกาะถูกได้ทำลายจากพายุเฮอร์รีเคนฮิวโก จึงบังคับให้เขาต้องว่ายน้ำในทะเล ด้วยความที่ทิมกลัวฉลาม ทำให้ความตั้งใจในการเป็นนักว่ายน้ำลดลง และตั้งแต่นั้นมาเขาจึงมีความสนใจที่จะเล่นบาสเกตบอล

ช่วงชีวิตในระดับมหาวิทยาลัย

ทิมเล่นกับมหาวิทยาลัยเวคฟอเรสต์ ได้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ Atlantic Coast Conference ถึงสามปีซ้อนอีกด้วย ด้วยประสบการณ์การแข่งขันในต่างประเทศกับทีมบาสเกตบอลในสหรัฐ เขาได้เล่นทีมบาสเกตบอลจนได้อยู่เกรด 9

ทิมได้รับเลือกเป็น All-American เรียกวิชาเอกจิตวิทยา ได้รับเกียรตินิยม ได้รับรางวัล John Wooden Award ในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งมอบให้กับผู้เล่นชายดีเด่นจากการโหวตของนักข่าวและนักจัดรายการกีฬา ฤดูกาลนั้นทีมได้ทำคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 20.8 คะแนนต่อเกมและทำอีก 14.7 รีบาวด์ต่อเกม สูงที่สุดในประเทศ เขามีชื่อเสียงที่โด่งดังทิมจบอาชีพการเล่นระดับมหาวิทยาลัยเป็นคนบล็อกสูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐ (NCAA) และเป็นหนึ่งในสิบผู้เล่นที่มีคะแนน 2,000 คะแนน และ 1,500 รีบาวด์ ทิมก็ยังเป็นคนที่ทำได้ 1,500 คะแนน 1,000 รีบาวด์ 400 บล็อก และ 200 แอสซิสต์ เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ NCAAอีกด้วย

ในระดับเอ็นบีเอ

เขาได้ถูกดราฟเป็นคนแรกในปี พ.ศ. 2540 โดยทีมซานแอนโตนิโอ สเปอรส์และได้สร้างผลงานในทันที โดยการทำคะแนนแต้มเฉลี่ยอยู่ที่ 21.1 คะแนนต่อเกมในฤดูกาลแรก สเปอรส์สามารถเลือกทิมเพราะทีมทำสถิติชนะ 20 แพ้ 62 ในฤดูกาลก่อนหน้านั้น

ต่อมาในฤดูกาล 1999 หรือพ.ศ. 2542 ของNBA ที่เกมถูกย่อลงจากการประท้วงให้หยุดเล่น ทิม และ เดวิด รอบินสัน เพื่อนร่วมทีม สามารถช่วยให้สเปอรส์ได้แชมป์เป็นครั้งแรก โดยเอาชนะทีมนิวยอร์ก นิกส์ในรอบไฟนอลใน 5 เกม

ฤดูกาลในปีพ.ศ.2544-2545 ทิมได้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่า เหมือนกับ เดวิด รอบินสัน เขาก็ได้รับรางวัลเดียวกันอีกครั้งในฤดูกาลพ.ศ.2545-2546 ทิมและเพื่อนร่วมทีมก็สามารถเข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย และเอาชนะนิวเจอร์ซี เนตส์ และสามารถคว้าแชมป์NBAได้จากการชนะในเกมที่ 6 ด้วยคะแนน 88 ต่อ 77 ทิมได้เป็นผู้เล่นทรงคุณค่ารอบไฟนอล และในเกมสุดท้ายของรอบไฟนอลนี้ ทิมได้เกือบทำ ควอดรูเปิล-ดับเบิล ได้เพียงแค่ขาดไปเพียง 2 บล็อกเท่านั้น ซึ่งจบเกมด้วยผลงาน 21 แต้ม 20 รีบาวด์ 10 แอสซิสต์ และ 8 บล็อก ในปีพ.ศ. 2548 ทิมโดดเด่นมากในเกม 7 ของNBA รอบสุดท้าย ทำ 25 คะแนนและ 11 รีบาวด์ เอาชนะดีทรอยต์ พิสตันส์ ได้รางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าในรอบไฟนอลเป็นครั้งที่สาม เทียบเท่ากับไมเคิล จอร์แดน, แชคิล โอนีล และ แมจิก จอห์นสันอีกด้วย

ในท่าชู้ตของ ทิม ที่รู้จักกันดีคือ แบงค์ช็อต คือการชู้ตลูกกระทบแป้นเข้าห่วง ซึ่งได้รับเลือกในทีมออล-เอ็นบีเอ และ All-Defensive ติดต่อตลอดแปดฤดูกาลแรกที่เล่น สถิติของNBA อดีตเพื่อนร่วมทีม เดวิด รอบิสัน เป็นผู้ถือสถิติเก่าที่เจ็ดปีติดต่อกัน ทิมทำคะแนนสูงสุดตลอดอาชีพการเล่นที่ 53 คะแนนในการแข่งกับทีมดัลลัส แมฟเวอริกส์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2544

บุคลิกของทิม คือ ความมีน้ำใจนักกีฬาและไม่ชอบทำตัวเด่น นอกสนามแข่งขัน ทิมได้บริจาคช่วยเหลือการวิจัยโรคมะเร็งเนื่องจากบิดามารดาของเขาต่างเสียชีวิตด้วยโรคร้ายแรงนี้ เขาได้ก่อตั้งมูลนิธิที่ชื่อ Tim Duncan Foundation โดยมีภรรยาของเขาคือ เอมี เป็นผู้บริหาร มูลนิธิดูแลช่วยเหลือทางงานวิจัย การศึกษา และการกีฬาของเยาวชน ในเมืองซานแอนโตนิโอ วินสตัน-ซาเล็ม และ หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกาอีกเช่นกัน